26 December 2009

อาหารเกาหลียอดฮิต

안 녕 하 세 요..!!

กิมจิ (Kimchi - ผักดองเกาหลี)




ส่วนผสม : กะหล่ำปลี (หรือหัวไชเท้า แตงกวา และผักอื่นๆ) หัวไชเท้าหั่นเป็นเส้น กระเทียมสับ หัวหอมหั่นลูกเต๋า ปลาเค็ม และเกลือวิธีการทำ : กะหล่ำปลีหรือผักอื่นๆล้างด้วยน้ำเกลือมากๆ ปรุงรสด้วยเครื่องเทศและหมักไว้ มีกิมจิหลายอย่าง เช่นกิมจิกะหล่ำปลี (เป็นที่ทราบโดยทั่วไป) กิมจิแตงกวา กิมจิหัวไชเท้าหั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า กิมจิหัวหอม และอื่นๆอีกมาก เป็นอาหารสุขภาพมีทั้งวิตามินและเกลือแร่หลายชนิด



บิบิมบับ (Bibimbap - ข้าวต้มผสมผัก)
ส่วนผสม : ข้าว, ใบเฟิร์นเบรก, รากดอกบอลลูน, ถั่วงอก, เนื้อวัว, พริกแดงบด, และน้ำมันงาวิธีการทำ : ข้าวสวยผสมด้วยผักต่างๆต้มสุก ดีสำหรับการชิมรสผักต่างๆ ช่วยบำรุงสายตาและมีคุณค่าทางโภชนาการ วิธีการทำบิบิมบับในหลายๆตำหรับของเมืองชองชู ได้รับความนิยมมาก




พุลโกกิ (Bulgogi - เนื้อวัวหมักย่าง)
ส่วนผสม : เนื้อวัว (หรือเนื้อหมู) น้ำลูกแพหรือน้ำตาล ซอสถั่วเหลือง กระเทียมสับ หัวหอมหั่นลูกเต๋า น้ำมันงาวิธีการทำ : หั่นเนื้อหรือหมูเป็นชิ้นบางๆ แล้วหมักกับเครื่องปรุงต่างๆก่อนนำไปย่าง




คาลบิย่าง (Grilled Galbi - เนื้อซี่โครงปรุงรส)
ส่วนผสม : เนื้อซี่โครงวัว (หรือหมู) น้ำตาล ซอสถั่วเหลือง หัวหอมหั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า กระเทียมสับ น้ำมันงาวิธีการทำ : ซี่โครงวัวหรือหมูหั่นเป็นชิ้นพอคำ นำไปหมักกับเครื่องปรุงรสก่อนนำไปย่าง กาลบิของซูวอนได้รับความนิยมมาก



ซัมแกทัง (Samgyetang - ซุปไก่



ส่วนผสม : เนื้อไก่อ่อน ข้าว กระเทียม เกาลัด พุทรา วิธีการทำ : ล้างไก่แล้วยัดใส้ด้วยเครื่องปรุงแล้วนำไปต้มจะได้น้ำซุปที่ได้รสชาติ


เน็งเมียน (Naengmyeon - ก๋วยเตี๋ยวทำด้วยแป้งบัควีทในน้ำซุปเย็น)

ส่วนผสม : เส้นก๋วยเตี๋ยว น้ำซุปเนื้อ เนื้อวัวหั่นบางๆ แตงกวา ลูกแพ ไข่ต้มสุกวิธีการทำ : ก๋วยเตี๋ยวใส่ในน้ำซุปเนื้อแช่เย็น น้ำซุปทำให้สดชื่น ยังมี บิบิมแนงเมียน (bibim naengmyeon) ซึ่งไม่ใส่น้ำซุปแต่แทนด้วยพริกแดงบด



แฮมุลทัง (Haemultang - สตูว์อาหารทะเล)
ส่วนผสม : เนื้อปู หอย กุ้ง ปลา หัวไชเท้า พริกแดงบด พริกป่น หัวหอม กระเทียมวิธีการทำ : ต้มอาหารทะเลทั้งหมดแล้วเติมพริกแดงบดและพริกป่น น้ำซุปอร่อยและเผ็ดร้อนมาก


กิมจิ จิเก (Kimchi jjegae - กิมจิสตูว์)


ส่วนผสม : กิมจิ เนื้อหมู น้ำมันงา หัวหอม พริกไทยวิธีการทำ : นาบเนื้อหมูกับหม้อจนเป็นสีน้ำตาล ก่อนใส่น้ำและกิมจิ ถ้าใช้กิมจิชนิดเปรี้ยว สตูว์จะอร่อยกว่า


ทัคคาลบิ (Dakgalbi - ซี่โครงไก่)



ส่วนผสม : เนื้อไก่ พริกแดงบด น้ำลูกแพ น้ำเชื่อม น้ำตาล กระเทียมสับ หัวหอมหั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าวิธีการทำ : ปรุงรสเนื้อไก่ด้วยเครื่องเทศต่างๆ แล้วนำไปย่าง โครงไก่ชุนชอน (Chuncheon)มีชื่อเสียงมาก



ซอลลองทัง (Seolleongtang - ซุปกระดูกวัว)


ส่วนผสม : ข้าว เนื้อวัว ซุปเนื้อวัว หัวหอมหั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า กระเทียมสับ พริกป่น พริกไทย เกลือวิธีการทำ : ใส่เนื้อวัวในน้ำซุปเนื้อแล้วต้มด้วยไฟอ่อนนานๆ ก่อนเสิร์ฟด้วยข้าวและเครื่องปรุงรสอื่นๆ เพื่อให้น้ำซุปเข้มข้นและอร่อยให้ต้มต่อไปประมาณกว่า 10 ชั่วโมง



คาลบิทัง (Galbitang - ซุปซี่โครงวัว)


ส่วนผสม : ซี่โครงวัว(หรือหมู) หัวไชเท้า หัวหอมหั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า กระเทียมสับ พริกไทย น้ำมันงา เมล็ดงาวิธีการทำ : ซี่โครงต้มพร้อมหัวไชเท้าเพื่อให้เป็นซุปที่มีรสชาติ ถ้ารับประทานพร้อมข้าวน้ำซุปจะอร่อยมาก


จุค (Juk - ข้าวต้ม)

ส่วนผสม : ข้าวชนิดต่างๆวิธีการทำ : ใส่น้ำ (ประมาณ 6 หรือ 7 เท่าของปริมาณข้าว) ต้มนานๆ มีการแปรรูปยุคหลายๆอย่างเช่น ข้าวต้มลูกสน ข้าวต้มงา ข้าวต้มพุทรา ข้าวต้มถั่วแดง ข้าวต้มเนื้อ ข้าวต้มฟักทอง ข้าวต้มหอยเป๋าฮื้อ และอื่นๆอีกมาก

สาเหตุที่ทำให้คนรักต้องเลิกกัน ??






- เอาแต่ใจตัวเอง-
เป็นเรื่องธรรมดามาก ที่ทุกคนต้องเอาแต่ใจตัวเองกันอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าใครจะ เอาใจตัวเองมาก หรือน้อยเท่านั้นเองบางคนคิดว่าเป็นคนเอาแต่ใจตัวเอง น้อย แต่ความจริงแล้วมากเนี่ย ยิ่งแย่เข้าไปใหญ่เลย


- ทำตัวเป็นเจ้าของมากเกินไป-
การที่คุณแสดงตัวให้ใครต่อใครได้รู้ว่า คุณกับเขาเป็นแฟนกันเนี่ย ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพียงแต่บางครั้งคุณอาจแสดงความเป็นเจ้าของเขา ในลักษณะที่เป็นเงา ตามตัวกันเลย เช่น ไปไหนไปด้วย ตัวติดกันเป็นปาท่องโก๋ โดยไม่ให้เขามีเวลา ส่วนตัวแม้แต่นิดเดียว ก็อาจเป็นปัญหาได้เหมือนกัน


- หึงแบบไร้ขีดจำกัด-
คงจะห้ามกันได้ยาก เรื่องความหึงเนี่ย แต่ต้องมีลิมิตกันบ้างไม่ใช่ว่าเพื่อนคุยด้วยก็ยังหน้ามืดตามัว หึงขนาดนั้น คงจะไม่ไหว บางคนเข้าขั้นโทรเช็คตลอด เวลา อันนี้น่าเป็นห่วงมาก

- บอกเลิกทุกครั้งที่ทะเลาะ-
ส่วนใหญ่จะเกิดจากฝ่ายหญิงซะมากกว่า จริงๆ แล้วก็พูดแค่อยากให้เขามาง้อเท่า นั้น ซึ่งวิธีนี้จะใช้ได้ผลในช่วงแรกเท่านั้นแต่หลังๆ ล่ะก็ เอ้า.. อยากเลิกดีนัก เลิกเลยดีกว่า น้ำตาเช็ดหัวเข่าได้นะ

- ไปเจ๊าะแจ๊ะกับคนอื่น-
ถือได้ว่าคุณไม่ได้ให้เกียรติคนที่คุณรักเลย ซึ่งทุกคนก็ย่อมหยิ่งในศักดิ์ศรีของตัวเอง บางครั้งอาจทำ เพื่อให้อีกฝ่ายหึงเล่นๆ เป็นการคอนเฟิร์มว่าคุณเองก็มีค่า สำหรับพวกเขา แต่ต้องระวัง เพราะมองอีกมุมคือคุณไม่แคร์ความรู้สึกของเขาเลย และถ้าเป็นอย่างนั้น ก็ไม่รู้จะอยู่ด้วยกันไปทำไม อีกกรณีหนึ่งที่หญิงหรือชายไปชอบเพื่อนของฝ่ายหนึ่ง นอกจากจะทำให้มิตรภาพระหว่างเพื่อนแตกสะบั้นแล้ว คนอื่นจะมองคุณเป็นคนไม่ดีเอามาก ๆ ด้วย ข้อนี้ต้องคิดให้ดี


- เชื่อเพื่อนมากเกินไป-
บางครั้งเพื่อนก็ไม่อยากให้คุณมีแฟน ซึ่งก็โทษไม่ได้อีกนั่นแหล่ะ เพราะจากที่ เคยเจอกัน ทานข้าวด้วยกันทุกวัน ก็กลับกลายเป็นว่า คุณไปตัวติดกับแฟนแทน หรืออาจจะด้วยความหวังดีมากเกินไป ก็เลยคิดแทนคุณไปหมด ว่าแฟนคุณดีพอ สำหรับคุณหรือเปล่า

- โกรธแล้วไม่พูดด้วย-
เป็นสาเหตุที่ทำให้คู่รักเลิกรากันมากที่สุดเลยก็ว่าได้ อาการแบบนี้จะทำให้อีกฝ่าย รู้สึกว่าตัวเองไม่มีค่า หรือบางทีเรื่องที่โกรธอาจมาจากความเข้าใจผิด แล้วไม่พูด กัน ก็ไม่สามารถปรับความเข้าใจกันได้

- นัดแล้วไม่เป็นนัดการเลื่อนนัด -
ประเภท เลื่อนแล้วเลื่อนอีก หรือว่ามาเลทแบบ นัดเช้ามาบ่ายนัด บ่ายมาเย็น อาการแบบนี้เนี่ย บางคนเขารอบ่อยๆ รอไปรอมา เลิกรอตลอดไปเลยก็มีนะ

- พูดจาข่มกันต่อหน้าคนอื่น-
อาจจะเพียงแค่อำกันเล่น แต่บางคนอำกันแรงเกินไป อาจจะเกิดการทะเลาะกัน ได้ ซึ่งเป็นสาเหตุเล็กๆ ที่จะนำไปสู่ความบานปลายได้


- โกหก-
บางคนโกหกเป็นนิสัย ทั้งที่บางทีไม่ได้ตั้งใจ แต่ถ้าอีกฝ่ายเข้าใจก็คงไม่เป็นไร แต่ขอบอกว่าเรื่องอย่างนี้ น้อยคนนัก ถึงจะยอมเข้าใจ

25 December 2009

ทำตัวให้น่ารัก เพิ่มเสน่ห์ให้กับตัวเอง



การแต่งตัวดีจะสร้างความประทับใจให้กับผู้พบเห็นควรสวมใส่เสื้อผ้าให้เหมาะสมกับวัย ดูสะอาดสะอ้านรีดให้เรียบร้อยและที่สำคัญคือ เสื้อผ้าที่ใส่ต้องทันต่อสมัยนิยมด้วย

- มีความมั่นใจในตัวเอง พยายามสร้างความมั่นใจให้กับตัวเองไม่ว่าจะเดิน นั่งหรือยืน อย่าพยายามคิดว่าเราแต่งตัวไม่ดี เพราะถ้าขาดความมั่นใจ นั่นก็หมายความว่า คุณขาดความน่ารักในตัวเองไปเสียแล้วคุณรู้มั้ย

- หมั่นหาความรู้ คนที่ทำตัวน่ารัก ใช่ว่าจะน่ารักเพียงอย่างเดียว แต่ต้องมีความเฉลียวฉลาดด้วย ทันคนทันต่อเหตุการณ์ต่างๆการมีความรู้เพื่อ เอาไว้พูดคุยแลกเปลี่ยนกับคู่สนทนา

- กิริยาท่าทางและอิริยาบทการเคลื่อนไหวร่างกายไม่เชื่องช้า ไม่ลุกลี้ลุกลนจนเกินไป ควรเคลื่อนไหวร่างกายแบบที่ดูสง่างาม ไม่ว่าจะเดิน นั่ง ยืน ที่ได้จังหวะพอเหมาะพอดี

- น้ำเสียงในการพูดจา ควรใช้คำพูดที่ดูอ่อนหวานสุภาพ อ่อนน้อมมีจังหวะจะโคนในการพูด เสียงไม่ดังหรือเบาจนเกินไป

- การให้อภัย คุณจะต้องไม่เป็นคนที่เก็บกด โกรธแค้นใคร ควรเป็นคนที่มีเมตตากรุณา ช่วยเหลือผู้อื่นหรือทำบุญทำทานเสียบ้าง ใบหน้าและผิวพรรณ จะได้ดูผุดผ่องและสดใสขึ้น

- มองโลกในแง่ดี ไม่หมกมุ่นอยู่กับสิ่งที่เป็นทุกข์เพราะจะทำให้ใบหน้าของเราเศร้าหมอง พยายามทำตัวของคุณให้ร่าเริง สดใส หัวเราะมากๆและ กล้าเผชิญกับสิ่งต่างๆที่ผ่านเข้ามาในชีวิต

24 December 2009

โยเกิร์ตดีต่อสุขภาพอย่างไร





โยเกิร์ต วันละ 1 ถ้วยทำให้สุขภาพเราดี เป็นเพราะโยเกิร์ตเนื้อครีมข้น รสธรรมชาติ ขนาด 100 กรัม 1 ถ้วย ให้สารอาหารที่มีประโยชน์ใกล้เคียงกับนมสด 1 แก้ว อันได้แก่ แคลเซี่ยม โปรตีนที่มีคุณภาพ คาร์โบไฮเดรต รวมทั้งวิตามิน เอ บี 2 และบี 12 แถมโยเกิร์ตส่วนใหญ่มีการเติมนมผงพร่องมันเนยไปด้วย จึงมีปริมาณโปรตีน แคลเซี่ยม และพลังงานมากกว่านมสดเสียอีก


คุณสมบัติที่เหนือกว่านมสดประการสำคัญ คือ โยเกิร์ตมีจุลินทรีย์มีชีวิตผสมอยู่ ซึ่งให้ประโยชน์ต่อสุขภาพหลายประการ คือ

- ช่วยย่อยน้ำตาลแลคโตส ทำให้ผู้ที่ดื่มนมวัวไม่ได้ มีโอกาสได้รับสารอาหารจากนมได้เต็มที่ โดยไม่เกิดอาการปวดท้อง แน่นท้อง หรือท้องเสีย2. ช่วยย่อยใยอาหารบางชนิดที่ร่างกายไม่สามารถย่อยเองได้3. เสริมสร้างการดูดซึมแคลเซียมและธาตุเหล็ก 4. ช่วยป้องกันจุลินทรีย์ก่อโรคไม่ให้ทำอันตรายต่อร่งกาย5. ควบคุมระบบนิเวศในระบบทางเดินอาหารให้อยู่ในสภาวะสมดุล6. ช่วยกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งสารภูมิคุ้มกันออกมาต่อสู้กับโรคภัยไข้เจ็บ

นี่เองทำให้ผู้ที่รับประทานโยเกิร์ตทุกวันจึงมี ระบบขับถ่ายที่ดี มีรูปร่าง ผิวพรรณดี และนอกจากนี้สุขภาพก็ยังแข็งแรง ไม่ค่อยเจ็บป่วยอะไรนัก โยเกิร์ตได้รับการยกย่องว่า เป็นยาอายุวัฒนะสำหรับคนทุกเพศทุกวัยอีกด้วย

23 December 2009

แต่งหน้าสไตล์ เกาหลีง่ายๆ

เทรนแต่งหน้าสไตล์สาวเกาหลี


เทรนแต่งหน้าสไตล์นี้จะเป็นลักษณะใสๆ ดูเป็นธรรมชาติสบายๆ ไม่เข้มจัด โดยมีวิธีการง่ายๆดังนี้

คิ้ว ให้เขียนอ่อนๆ ตรงๆ ตามรูปคิ้วของเรา ไม่โค้งเกินไป จะได้ดูเป็นธรรมชาติ วิธีการคือใช้อายแชโดว์สีดำปัดคิ้ว เพื่อให้สีดูเนียนเป็นธรรมชาติ อย่าเขียนคิ้วให้ยาวมากเพราะจะทำให้ดูมีอายุ

แก้ม
ปัดบางๆ เอาแค่พอเห็นสี ไม่ปัดจัด จะดูเป็นธรรมชาติ

ตา ให้ใช้อายแชโดว์ โทนสีอ่อน จะทำให้ดูตาโตขึ้น ค่อยๆทาให้มีสีทีละนิด อย่าปัดสีมาเยอะๆแล้วทาทีเดียว ค่อยๆเกลียจะได้สีที่ดูเป็นธรรมชาติมากกว่า แต่อย่าลงสีที่เปลือกตาเยอะ เพราะจะทำให้ดูตาโปน แล้วอย่าลืม เพิ่มเสน่ห์ให้กับดวงตา ด้วยคอนแทคเลนส์เกาหลี ด้วยนะ


ปาก ใช้ลิปกรอส สีอ่อนๆ ไม่ลงลิปสีจัด ใช้เฉพาะลิปกรอสอย่างเดียว วิธีคือ ทาเฉพาะด้านในริมฝีปากเท่านั้น ก็จะดูปากสวย มันวาว สวยใสค่ะ






ที่มา : women.mthai.com

19 December 2009