24 November 2009

Co-enzyme Q10 มีประโยชน์อย่างไร


Co-enzyme Q10 หรือ Co-Q 10




Co-Q10 เป็นสารที่มีบทบาทในการเพิ่มพลังงานให้แก่เซลล์ เพื่อใช้เป็นพลังงานในร่างกาย เป็นสารสำคัญใน การสังเคราะห์ Adeno-sinetriphosphate (ATP) ซึ่งเปรียบได้กับขุมพลังงาน ของเซลล์ทั่วร่างกาย Co-enzyme Q10 เป็นตัวต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง ช่วยปกป้องเซลล์จากการทำร้ายของอนุมูลอิสระช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคร้าย

ซึ่งมาจากการเสื่อมสภาพของเซลล์ เช่น โรคหัวใจ ข้อเสื่อม อัมพาต หรือ โรคที่เกิดจากความเสื่อมสภาพวัย ตามปกติร่างกายสามารถผลิต Co-Q10 ได้โดยการสกัดและสังเคราะห์ผ่านตับ โดยดูดซึมสารอาหาร ที่ได้ในแต่ละวัน และเก็บสะสม ไว้ในเซลล์ไมโตคอนเดรีย ซึ่งเซลล์นี้มีอยู่มาก ในหัวใจ สมอง และกล้ามเนื้อ แต่เมื่ออายุมากขึ้นการทำงานของร่างกาย ในระบบต่างๆ ก็เสื่อมถอยลง ตับก็ไม่สามารถสังเคราะห์ Co-Q10 ได้ในปริมาณเท่าเดิม สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ริ้วรอย และความเสื่อม ของระบบต่างๆ เราสามารถพบ Co-Q10 ได้ในอาหารประเภทเนื้อสัตว์ เช่น ปลาซาร์ดีน ปลาแซลมอน เครื่องในสัตว์ ไข่ ถั่วเปลือกแข็ง ข้าวกล้อง และงา


ชื่อพ้อง: Coenzyme Q, Coenzyme Q10, CO Q10, Ubidecarenone, Ubiquinone 10Class: จัดอยู่ในกลุ่ม antioxidantกลไกการออกฤทธิ์ Coenzyme Q10 เป็น coenzyme ที่จำเป็นของร่างกายมีลักษณะคล้ายเป็นวิตะมิน มีโครงสร้างเหมือนวิตะมิน K โดยจะพบที่ในเยื่อหุ้มของ mitochondria ที่อยู่ที่หัวใจ ตับ ไต และตับอ่อน มีบทบาทสำคัญในการขนส่งอิเล็กตรอนใน mitochondria และการสร้าง adrenosine triphosphate (ATP) Coenzyme Q10 มีคุณสมบัติในการเป็น membrane stabilizing โดยตรงและเป็น antioxidant ผลต่อหัวใจ มีประโยชน์ในการป้องกันการถูกทำลายของเซลในระหว่างที่เกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดและเพิ่ม reperfusion




CO-Q10 ไม่ใช่วิตามิน แต่เป็นผู้ช่วยวิตามิน สารตัวนี้ทำหน้าที่เป็นตัวช่วยให้ระบบเผาผลาญพลังงานในร่างกายกระดี๊กระด๊าขึ้น ทั้งนี้ CO-Q10 จะช่วยเสริมและกระตุ้นการทำงานของเซลล์ในร่างกาย ยิ่งเซลล์หัวใจด้วยแล้ว ยิ่งต้องการเจ้าตัวนี้อย่างมาก เพราะหัวใจคนเราทำงานตลอด 24 ชั่วโมง ไม่มีวันหยุด CO-Q10 หาได้จากธรรมชาติ คือจากธัญพืชพวกข้าวกล้อง งา ถั่วต่างๆ และเมล็ดทานตะวัน เป็นต้น โดยปกติแล้ว ธัญพืชจะให้คุณค่ามาเป็นชุด คือให้ทั้งวิตามินอี และ CO-Q10 และการได้รับวิตามินอีกับ CO-Q10 จากธรรมชาติจะให้ผลดีต่อร่างกายมากกว่าวิตามินชนิดเม็ดที่ทำจากห้องแล็บถึง 2 เท่า จึงควรหารับประทานจากอาหารในธรรมชาติ ไม่ใช่ไปซื้อชนิดเม็ดมาทาน ส่วนวิตามินอีนั้นเป็นสิ่งสำคัญต่อร่างกาย แต่ร่างกายสร้างขึ้นเองไม่ได้ ต้องได้จากอาหารจำพวกธัญพืช มนุษย์ควรหาวิตามินอีเข้าสู่ร่างกายให้มากพอ ทั้งนี้ วิตามินอีจะช่วยป้องกันไม่ให้หลอดเลือดแข็ง ไม่เปราะร้าวง่าย เพราะฉะนั้น ก็เท่ากับป้องกันโรคได้หลายโรค เช่น ความดันโลหิตสูง หรือต้อกระจกก็ป้องกันได้ร่วมกับวิตามินเอ วิตามินอีเด่นเรื่องการปกป้องร่างกายที่หลอดเลือด
ถ้าหลอดเลือดเรายังดี ก็จะเป็นกุญแจสำคัญที่ชลอความแก่ของร่างกาย หากหลอดเลือดโทรม จะขาดเลือดไปเลี้ยงร่างกาย ทำให้แก่เร็ว ผมหงอกขาว เป็นต้น







No comments:

Post a Comment